พระพิษณุโลก | Prapsl.com

พระพิษณุโลก | Prapsl.com

ลำดับ 361 พระนาคปรก กรุวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ ลพบุรี

  
                           
  
                           พระนาคปรก เนื้อชินเงิน กรุวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ ศิลป์ลพบุรี
                          วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ เป็นวัดหลวงประจำจังหวัดลพบุรี สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นราวพุทธศตวรรษที่ ๑๘-๑๙ ในสมัยลพบุรี    ต่อมาสมัยอยุธยา ได้มีการบูรณปฏิสังขรณ์หลายวาระ ในสมัยสมเด็จพระมหาจักรพรรดิ, สมเด็จพระนารายณ์มหาราช และสมัยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ มีสถาปัตยกรรมที่สำคัญ คือ พระปรางค์ ขนาดใหญ่ตั้งอยู่กึ่งกลางของวัด ล้อมรอบด้วยระเบียงคด และขนาบด้วยพระปรางค์ขนาดเล็ก พระปรางค์ประธาน สูง ๓๐.๗๐ เมตร ก่อด้วยศิลาแลง ด้านทิศตะวันออกมีมุขยื่น ประดับลวดลายปูนปั้นเป็นพระพุทธรูป และพุทธประวัติที่หน้าบัน มีลวดลายหน้าบุคคลและพันธุ์พฤกษา มีวิหารหลวง (วิหารเก้าห้อง) อยู่ด้านหน้าของพระปรางค์ประธาน สร้างในรัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ประตูเป็นสถาปัตยกรรมแบบไทย ส่วนหน้าต่างเป็นแบบตะวันตก มีกำแพงแก้วล้อมรอบ ศาลาเปลื้องเครื่อง สำหรับพระเจ้าแผ่นดินเปลี่ยนเครื่องทรง ก่อนที่จะเข้าไปประกอบศาสนกิจ
นอกจากนี้ ยังมีเจดีย์ และพระปรางค์ขนาดเล็กหลายองค์ ก่อสร้างในหลายยุคหลายสมัย
วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ ได้เสื่อมโทรมลง หลังจากที่บ้านเมืองต้องร้าง เนื่องจากภัยสงคราม ภายในวัดต้องพังสลายไปตามกาลเวลา บรรดาของมีค่าที่บรรจุอยู่ภายในเจดีย์ได้ถูกนักแสวงหาสมบัติขุดทำลาย เพื่อหาของมีค่าต่างๆ บรรดาพระบูชา และพระเครื่องที่ถูกขุดค้นนั้น มีหลายศิลปะ คละเคล้ากันไปตั้งแต่ ทวารวดี ลพบุรี และอยุธยา พระกรุวัดนี้มี พิมพ์พระนาคปรก มากที่สุด ประมาณ ๓๐ พิมพ์ แต่ละพิมพ์บ่งบอกถึงความอลังการ โดยฝีมือสกุลช่างขอม แบบมหายาน ซึ่งไม่มีพระกรุไหนในเมืองไทย ที่มีพระนาคปรกสวยเหมือนกรุวัดพระศรีฯ แห่งนี้เลย เพราะแต่ละพิมพ์ล้วนเป็น ฝีมือช่างหลวง ทั้งสิ้น
พระนาคปรก กรุวัดพระศรีฯ จ.ลพบุรี มีทั้งเนื้อชินตะกั่วสนิมแดง เนื้อดิน เนื้อสัมฤทธิ์ และที่พบมากที่สุด คือ เนื้อชินเงิน ซึ่งมีคราบปรอทขาววาววับคลุมทั่วองค์พระ ส่วนพระนาคปรก นอกกรุ วัดพระศรีฯ ที่ขุดพบในเมืองลพบุรี จะเป็นฝีมือช่างชาวบ้านธรรมดา พิมพ์ทรงด้านพุทธศิลป์ด้อยกว่า อาทิ กรุวัดบันไดหิน และกรุวัดปืน ที่ขึ้นชื่อโด่งดังในด้านมหาอุดหยุดได้ พระนาคปรก กรุวัดพระศรีฯ จ.ลพบุรี องค์แรกที่นำมาให้ชมวันนี้ คือ  เนื้อชินเงิน ถือเป็นพิมพ์สากล ศิลป์ลพบุรีบริสุทธิ์ มีความนิยมมากกว่าพิมพ์อื่นๆ ซึ่งมีหลากหลายแบบพิมพ์ของเมืองลพบุรี พทธลักษณะ องค์พระปฏิมาประทับนั่งปางสมาธิ เหนือขนดนาค เบื้องหลังมีพญานาคเจ็ดเศียร แผ่พังพาน เหนือเศียรองค์พระประทับอยู่บนฐานลักษณะเส้นตรงยาวเรียบ ๓ ชั้น เปรียบเสมือนประทับอยู่บนบัลลังก์ลำตัวนาค
- See more at: http://www.komchadluek.net/detail/20090701/18852/18852.html#sthash.z3R9QjG8.dpuf
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
นาคปรก เป็นชื่อเรียกพระพุทธรูปลักษณะนั่งสมาธิ และมีพญานาคแผ่หัวเป็นพังพานขึ้นจากไหล่ไปปรกพระเศียรของพระพุทธรูป แต่เดิมทำเป็นรูปพญานาคเป็นมนุษย์ มีรูปงู 7 หัวเป็นพังพานขึ้นจากไหล่ไปปรกพระเศียร (ศีรษะ) ในกิริยาที่พญานาคทำท่านมัสการพระพุทธเจ้า ต่อมาภายหลังทำพญานาคเป็นรูปงูขดตัวเป็นฐานตั้งพระพุทธรูปนั่งสมาธิบนตัวพญานาค และมีพังพานและหัวของพญานาค 7 เศียรปรกอยู่

                          หลังจากที่พระพุทธโคตมได้ทรงตรัสรู้ พระพุทธองค์ได้แปรที่ประทับเพื่อเสวยวิมุติสุขยังสถานที่ต่างๆ ในอาณาบริเวณที่ไม่ห่างจากต้นพระศรีมหาโพธิ์นักโดยประทับแต่ละที่สัปดาห์ละ 7 วัน และในสัปดาห์ที่ 6 ในขณะที่พระพุทธองค์ทรงประทับ ณ ใต้ต้นมุจลินท์ (ต้นจิก) ซึ่งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของต้นพระศรีมหาโพธิ์ เมื่อพระพุทธองค์เสด็จมาประทับอยู่ที่นี่ ได้บังเกิดมีฝนและลมหนาวตกพรำตลอดเจ็ดวันไม่ขาดสาย ผู้รจนาปฐมสมโพธิได้แต่งเล่าเรื่องไว้ว่า พญานาคชื่อ มุจลินทร์ ได้ขึ้นจากสระน้ำที่อยู่ในบริเวณแห่งเดียวกันนี้ เข้าไปวงขนด 7 รอบ แล้วแผ่พังพานปกพระพุทธเจ้า เพื่อป้องกันลมฝนมิให้พัดและสาดกระเซ็นมาต้องพระวรกาย ครั้นฝนหาย ฟ้าสาง พญานาคจึงคลายขนดออก แล้วจำแลงเป็นเพศมาณพยืนเฝ้าพระพุทธเจ้าทางเบื้องพระพักตร์ ลำดับนั้นพระพุทธองค์จึงทรงเปล่งอุทานว่า
ความสงัดคือความสุขของบุคคลผู้มีธรรมอันได้สดับแล้วได้รู้เห็นสังขารทั้งปวงตามเป็นจริงอย่างไร ความสำรวมไม่เบียดเบียนในสัตว์ทั้งหลาย และ ความเป็นผู้ปราศจากกำหนัดหรือสามารถก้าวล่วงพ้นซึ่งกามทั้งปวงเสียได้ เป็นสุขอันประเสริฐในโลก ความขาดจากอัสมิมานะหรือการถือตัวตนหากกระทำให้ (การถือตัว) หมดสิ้นไปได้นั้นเป็นความสุขอย่างยิ่ง
พระพุทธโคตม
                         ครั้นพระพุทธองค์เสด็จประทับเสวยวิมุตติสุข ณ ร่มไม้อชปาลนิโครธสิ้น ๗ วัน แล้วพระองค์ก็เสด็จไปประทับนั่งเสวยวิมุตติสุขยังร่มไม้จิก อันมีชื่อว่า มุจจลินท์ ซึ่งตั้งอยู่ด้านทิศอาคเนย์ของต้นพระศรีมหาโพธิ์ วันนั้นเกิดฝนตกพรำอยู่ไม่ขาดสายตลอด ๗ วัน พญานาคมุจจลินท์ ผู้เป็นราชาแห่งนาค ได้ออกจากนาคพิภพ ทำขนดล้อมพระวรกาย ๗ ชั้น แล้วแผ่พังพานใหญ่ปกคลุมเบื้องบน เหมือนกั้นเศวตฉัตรถวายพระผู้มีพระภาคเจ้า ด้วยความประสงค์มิให้ฝนและลมหนาวสาดต้องพระวรกาย ทั้งป้องกันเหลือบ ยุง บุ้ง ร่าน ริ้น และสัตว์เลื้อยคลานทั้งมวลด้วย ครั้งฝนหายแล้ว พญามุจจลินท์นาคราชจึงคลายขนดจากที่ล้อมพระวรกายพระพุทธเจ้า จำแลงเพศเป็นมาณพน้อยยืนทำอัญชลีถวายนมัสการพระพุทธองค์ในที่เฉพาะพระพักตร์ ลำดับนั้นพระผู้มีพระภาคเจ้าได้ทรงเปล่งอุทานว่า "สุโข วิเวโก ตุฏฺฐัสสะ สุตะธัมมัสสะ ปัสสะโต อัพยาปัชชัง สุขัง โลเก ปาณะภูเตสู สัญญะโม สุขา วิราคะตา โลเก กามานัง สะมะติกฺกะโม อัสมิมานัสสะ วินะโย เอตัง เว ปะระมัง สุขัง ฯ" ความว่า "ความสงัดเป็นสุขของบุคคลผู้มีธรรมอันได้สดับแล้ว รู้เห็นสังขารทั้งปวงตามเป็นจริงอย่างไร ความเป็นคนไม่เบียดเบียน คือความสำรวมในสัตว์ทั้งหลาย และความเป็นคนปราศจากความกำหนัด คือความก้าวล่วงกามทั้งปวงเสียได้ เป็นสุขในโลกความนำออกเสียซึ่งอัสมินมานะ คือความถือตัวตนให้หมดได้นี้เป็นสุขอย่างยิ่ง"
พระพุทธจริยาที่เสด็จประทับนั่งเสวยวิมุตติสุขภายในวงขนดของพญานาคมุจจลินท์นาคราชที่ขดแวดล้อมพระกายอยู่นี้ เป็นเหตุให้สร้างพระพุทธรูปปางนี้ขึ้นมา เรียกว่า ปางนาคปรก เรื่องพระปางนาคปรกนี้ นิยมสร้างเป็นพระนั่งบนขนดตัวพญานาคเหมือนเอานาคเป็นบัลลังก์ดูสง่า องอาจเป็นพระเกียรติอำนาจของพระองค์อย่างหนึ่ง ได้ลักษณะเป็นอย่างพระเจ้าของพราหมณ์ ถ้าจะรักษาลักษณะของพระพุทธรูปตามประวัติ ก็จะเป็นไปอีกในลักษณะหนึ่งคือ พระพุทธรูปจะมีพญานาคพันรอบพระวรกายด้วยขนดตัวพญานาคถึง ๔-๕ ชิ้น จนบังพระวรกายมิดชิด เพื่อป้องกันฝนและลม จะเห็นได้ก็เพียงพระเศียร พระศอ และพระอังสาเป็นอย่างมาก ทั้งเบื้องบนก็มีหัวพญานาคแผ่พังพานปกคลุมอีกด้วย

                         ความเชื่อและคตินิยม
  • เป็นพระพุทธรูปประจำวันเกิดของคนเกิดวันเสาร์
  • พระคาถาบูชา สวด 10 จบ (องคุลีมาลปริตร) ดังนี้ "ยะโตหัง ภะคินิ อะริยายะ ชาติยา ชาโต นาภิ ชานามิ สัญจิจจะ ปาณัง ชีวิตา โวโรเปตา เตนะ สัจเจนะ โสตถิ เต โหตุ โสตถิ คัพภัสสะ"                                   
  •                อ้างอิง
  • สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ. ตำนานพุทธเจดีย์. ธนบุรี : โรงพิมพ์รุ่งวัฒนา, 2513.
  • เรื่องพระพุทธรูปปางต่างๆ หลวงบริบาลบุรีรัตน์ และนายเกษมบุญศรี (พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระกรุณาโปรเกล้าฯ ให้พิมพ์ขึ้นเพื่อพระราชทานในงานพระราชกุศลราชคฤหมงคลขึ้นพระตำหนักจิตรลดารโหฐาน เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2500)
  • สกุลศิลปพระพุทธรูปในประเทศไทย อาจารย์จิตร บัวบุศย์
  • ศิลปในประเทศไทย ศาสตราจารย์ หม่อมเจ้าสุภัทรดิศ ดิสกุล
                                   พุทธคุณ   คงกระพันชาตรี
                                   สภาพ   สวย
                                   ราคา   ติดต่อสอบถาม



Close Menu