

หลวงปู่ศุข พิมพ์บัว 5 เม็ด หลังยันต์ 4 วัดปากคลองมะขามเฒ่า ชัยนาท
หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า
อำเภอวัดสิงห์ จังหวัดชัยนาท
(ที่มา : หนังสือ PRECIOUS VOL.1)
นามเดิม :-
ศุข นามสกุล เกษเวช (ต่อมาลูกหลานได้ใช้ เกษเวชสุริยา ก็มี)
เกิดเมื่อวันจันทร์ เดือน ๔ ขึ้น ๘ ค่ำ ปีวอก พ.ศ.
๒๓๙๐ ที่บ้านมะขามเฒ่า ( เรียกกันในสมัยนั้น ปัจจุบันเรียก บ้านปากคลอง )
ตำบลมะขามเฒ่า อำเภอวัดสิงห์ จังหวัดชัยนาท
โยมบิดา - มารดา
:- ชื่อ นายน่วม และนางทองดี ตั้งบ้านเรือนอยู่ที่ตำบลมะขามเฒ่า
มีบุตรและธิดา ด้วยกัน ๙ คน คือ ๑. หลวงปู่ศุข ๒. นางอ่ำ ๓. นายรุ่ง ๔. นางไข่ ๕. นายสิน ๖. นายมี ๗. นางขำ ๘. นายพลอย ๙. หลวงพ่อปลื้ม
ปัจจุบันยังมีลูกหลานของท่านอยู่ที่บ้านใต้วัดมะขามเฒ่าอีกหลายคน
หรือแม้แต่ร้านค้าขายภายในบริเวณวัดเองก็ยังมี
การอุปสมบทของหลวงปู่ศุขนั้น
ท่านได้อุปสมบทเมื่ออายุได้ ๒๒ ปี ที่วัดโพธิ์บางเขน (
ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็นวัดโพธิ์ทองล่าง ) โดยมี พระครูเชย จนฺทสิริ วัดโพธิ์บางเขน
เป็น พระอุปัชฌาย์ พระถายมเป็นพระคู่สวด
การอุปสมบทนี้มีลุงแฟงเป็นผู้อุปการะทั้งสิ้น ส่วนโยมบิดามารดาไม่ได้มาร่วมพิธีด้วย
เพราะการเดินทางสมัยนั้นลำบากมาก จากชัยนาทถึงกรุงเทพฯ ก็กินเวลาอย่างน้อย ๒ ถึง ๓
วัน จึงจะถึง พระอุปัชฌาย์ของท่านชื่อ หลวงพ่อเชย จันทสิริ
อดีตท่านเจ้าอาวาสวัดโพธิ์ทองล่าง
ซึ่งเป็นพระสงฆ์ฝ่ายรามัญที่ถือเคร่งในวัตรปฏิบัติและพระธรรมวินัยเป็นอย่างยิ่ง
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
หลวงพ่อเชยท่านยังเป็นอาจารย์ทางฝ่ายวิปัสสนาธุระมีความรู้และความชำนาญรู้แจ้งแทงตลอด
อีกทั้งทางด้านวิทยาคมก็แก่กล้าเป็นยิ่งนัก หลวงปู่ฯ
ท่านได้รับถ่ายทอดวิชาความรู้จากอุปัชฌาย์ของท่านมาพร้อมกับอาจารย์เปิง
วัดชินวนาราม และหลวงปู่เฒ่า วัดหงษ์ จังหวัดปทุมธานี ซึ่งเป็นศิษย์ในสายหลวงพ่อเชย
วัดโพธิ์ทองล่างเหมือนกัน เมื่อได้อุปสมบทแล้วอยู่กับพระอุปัชฌาย์
เพื่อศึกษาเล่าเรียนพระธรรมวินัยพอสมควรแล้ว
ท่านก็ได้ออกเดินธุดงค์หาที่สงบฝึกวิปัสสนากัมมัฏฐาน และวิชาอาคมต่าง ๆ
จากสำนักที่มีชื่อเสี่ยงโด่งดังในสมัยนั้นจนชำนาญดีแล้ว
จึงกราบลาอาจารย์กลับบ้านเกิดของท่าน
โดยมาพักอยู่ที่วัดร้างแห่งหนึ่งข้างหมู่บ้านของท่าน ชื่อวัดอู่ทอง
ปัจจุบันนี้เรียกว่า วัดปากคลอง
ชาวบ้านแถวนั้นมีความศรัทธาเลื่อมใสจึงนิมนต์ให้ท่านจำพรรษาอยู่ที่นั้น
เพื่อที่ว่าจะได้สร้างวัดขึ้นมาใหม่ ดังนั้นท่านจึงได้อยู่ ณ ที่นั้นมาจนท่านมรณภาพ
ในระหว่างที่ท่านมีชีวิตอยู่นั้น
ได้เริ่มพัฒนาในท้องถิ่นให้เจริญรุ่งเรืองด้วยจากวัดร้างที่ไม่มีอะไรเลย จนถึง
พุทธาวาส ธรรมาวาส และสังฆาวาส เป็นวัดที่สมบูรณ์แบบจนถึงทุกวันนี้
ยังมีพระอุโบสถและมณฑป ปรากฏให้เห็นอยู่
ส่วนการอบรมสั่งสอนนั้นท่านได้แนะแนวการประพฤติดี ปฏิบัติชอบ
ให้เห็นคุณและโทษของผลการปฏิบัติตนในทางที่ดีหรือไม่ดีอย่างไร
จนประชาชนแถวนั้นมีความประพฤติดีมีศีลธรรมเป็นส่วนมาก
สืบต่อมามารดาของหลวงปู่ ได้ถึงแก่กรรมและได้จัดการฌาปนกิจศพ และในงานนี้เอง หลวงปู่ฯ
ท่านได้สร้างวัตถุมงคลในรูปพระพิมพ์สี่เหลี่ยมซุ้มรัศมีออกแจกเป็นของที่ระลึกเป็นครั้งแรก
เมื่อผู้ที่ได้รับแจกพระเครื่องจากท่านไปได้ปรากฏอภินิหารทางอยู่ยงคงกระพัน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องกันเขี้ยวงา คือสุนัขกันไม่เข้า
ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่บังเกิดขึ้นบ่อยครั้ง
เพราะบ้านนอกอย่างในชนบทสมัยก่อนนั้นไม่ค่อยจะมีรั้วรอบขอบชิดเสียเป็นส่วนใหญ่
ก็ได้อาศัยสุนัขที่เลี้ยงไว้เป็นยามเฝ้าบ้าน
ฉะนั้นการที่จะแวะเวียนไปบ้านหนึ่งบ้านใดนั้นจะต้องระวังเรื่องสุนัขลอบกัดให้ดี
มิฉะนั้นท่านจะถูกสุนัขกัดเอาง่ายๆ พระของหลวงปู่ฯ จึงมีชื่อเรื่องสุนัขกันไม่เข้า
เป็นปฐมเหตุก่อน
จึงบังเกิดความนิยมไปขอท่านมาแขวนคอบุตรหลานเพื่อกันเขี้ยวงาและภยันตรายต่างๆ
สมัยก่อนพระวัดปากคลอง เนื้อตะกั่ว จะมีแขวนอยู่ในคอเด็กในท้องถิ่นเกือบจะทุกคน
แล้วถ้าจะไปขอพรหลวงปู่ศุข ท่านมักจะถามว่า “เอ็งมีลูกกี่คน?” ท่านจะให้ครบทุกคน
หลวงปู่ท่านไปช่วยพุทธาภิเษกวัตถุมงคลอีกหลายวัด เมื่อถูกขอให้ไปช่วยตามวัดต่าง ๆ เพื่อหาเงินมาทำนุบำรุงและพัฒนาวัดในด้านต่าง ๆ ท่านมรณภาพเมื่อ เดือน ๑ ปีกุน พ.ศ. ๒๔๖๖
ไม่ปรากฏวันที่ที่แน่นอน คำนวณอายุได้ ๗๖ ปี
ปัจจุบันชาวจังหวัดชัยนาทผู้มีจิตศรัทธาเลื่อมใส
ได้ร่วมกันสร้างรูปหุ่นขี้ผึ้งไว้ที่วัดปากคลองมะขามเฒ่า
เพื่อจะได้ทำการสักการบูชาโดยทั่วกัน กรมทหารเรือเห็นความสำคัญ
จึงได้ทำการบูรณะซ่อมแซมมณฑป เมื่อ พ.ศ. ๒๕๔๕
ทำให้ประชาชนทั้งใกล้และไกลต่างจังหวัด หลั่งไหลมาสักการะบูชาทุก ๆ วันมิได้ขาด
วัดปากคลองมะขามเฒ่า
จึงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งหนึ่งของจังหวัดชัยนาทต่อไป
พุทธคุณ ติดต่อค้าขาย เมตตามหานยม
สภาพ เป็นพระใช้พอสวย ดูง่าย
ราคา ติดต่อสอบถาม