

หลวงพรหมโยธี (มังกร ผลชีวิน) คือใคร? เมื่อตอนเกิดการเปลี่ยนแปลงการปกครองปี 2475 ท่านเป็นทหารมียศนายร้อยเอก ได้เข้าร่วมกับคณะราษฎร์อันมีบุคคลสำคัญที่เป็นแกนนำ คือ พันเอกพระยาพหลหยุหเสนา พันเอกพระยาทรงสุรเดช พันตรีหลวงพิบูลสงคราม และนายปรีดี พนมยงค์
ปี 2481 ได้รับแต่งตั้งให้เป็นคณะรัฐมนตรี ในคณะรัฐบาลของพันเอกแปลก พิบูลสงคราม ต่อมาปี 2484 ได้รับการแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม ครั้นเกิดสงครามอินโดจีน ก็ได้รับหน้าที่เป็นแม่ทัพใหญ่ต่อสู้กับฝรั่งเศส ทำการรบจนชนะและได้มีชื่อเสียงมากในการทำสงครามจนเป็นที่ครั้นคร้ามของศัตรู ต่อมาภายหลังท่านมียศพลเอก และลงเล่นการเมือง ได้เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการในรัฐบาลจอมพลแปลกฯ เมื่อปี 2499.....
พระชินราชหลวงพรหมฯ สร้างขึ้นที่ "วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร" หรือที่คนพิดโลกเรียกกันติดปากว่า "วัดใหญ่" ในช่วงหลังสงครามเมื่อปี 2493 โดยท่านเจ้าคุณศรีฯ(สนธิ์) วัดสุทัศน์ได้มอบชนวนโลหะและขึ้นไปทำพิธีให้ เป็นพระร่วมปลุกเสกโดยคณาจารย์ทรงคุณวุฒิระดับประเทศในสมัยนั้น ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพระเถราจารย์ในยุคสงครามแทบทั้งสิ้น ในห้วงเวลานั้น ท่านเจ้าคุณศรีฯ(สนธิ์) ได้สร้างพระพุทธชินราชรุ่นเกาหลีขึ้น เพื่อแจกจ่ายให้กับทหารในการออกไปรบในสงครามเกาหลีที่มีมากถึง 12,000 คน และพระชินราชหลวงพรหมฯ หล่อเสร็จพร้อมกันพอดี ทำการปลุกเสกเสร็จเรียบร้อยแล้วก็ได้นำออกแจกทหารที่ไปรบเช่นเดียวกัน
พระชินราชหลวงพรหมโยธีเป็นอีกหนึ่งในแบบพระพุทธชินราชรูปหล่อโบราณที่มีชื่อเสียง ยิ่งในปัจจุบันที่พระชินราชอินโดจีนมีราคาเช่าหาแพงทะลุหมื่นและขยับขึ้นเรื่อยๆ นั้น พระชินราชหลวงพรหมโยธีก็ทวีบทบาทมากขึ้น ในฐานะพระทางเลือกที่ดีเยี่ยมเหตุเพราะประสบการณ์จากสงครามที่ไม่แพ้กัน พระชินราชหลวงพรหมฯ เป็นเนื้อทองผสม กระแสอมเขียวแบบเดียวกับพระชินราชอินโดจีนทุกประการ ก้นฐานพระมีสองแบบ คือแบบตอกโค๊ดอกเลาตื้นๆ กับแบบโค๊ตอกเลาหล่อติดในตัว ซึ่งแบบหลังจะหายากกว่า พระเครื่องราคาไม่แรงหลักพันกลางถึงปลาย คุณภาพล้วนๆ ธรรมชาติของพระหล่อโบราณแรงด้วยความศรัทธา "หลวงพ่อพระพุทธชินราช" วัดใหญ่พิดโลกบ้านเรา ด้วยความเคารพ ^^
ปี 2481 ได้รับแต่งตั้งให้เป็นคณะรัฐมนตรี ในคณะรัฐบาลของพันเอกแปลก พิบูลสงคราม ต่อมาปี 2484 ได้รับการแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม ครั้นเกิดสงครามอินโดจีน ก็ได้รับหน้าที่เป็นแม่ทัพใหญ่ต่อสู้กับฝรั่งเศส ทำการรบจนชนะและได้มีชื่อเสียงมากในการทำสงครามจนเป็นที่ครั้นคร้ามของศัตรู ต่อมาภายหลังท่านมียศพลเอก และลงเล่นการเมือง ได้เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการในรัฐบาลจอมพลแปลกฯ เมื่อปี 2499.....
พระชินราชหลวงพรหมฯ สร้างขึ้นที่ "วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร" หรือที่คนพิดโลกเรียกกันติดปากว่า "วัดใหญ่" ในช่วงหลังสงครามเมื่อปี 2493 โดยท่านเจ้าคุณศรีฯ(สนธิ์) วัดสุทัศน์ได้มอบชนวนโลหะและขึ้นไปทำพิธีให้ เป็นพระร่วมปลุกเสกโดยคณาจารย์ทรงคุณวุฒิระดับประเทศในสมัยนั้น ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพระเถราจารย์ในยุคสงครามแทบทั้งสิ้น ในห้วงเวลานั้น ท่านเจ้าคุณศรีฯ(สนธิ์) ได้สร้างพระพุทธชินราชรุ่นเกาหลีขึ้น เพื่อแจกจ่ายให้กับทหารในการออกไปรบในสงครามเกาหลีที่มีมากถึง 12,000 คน และพระชินราชหลวงพรหมฯ หล่อเสร็จพร้อมกันพอดี ทำการปลุกเสกเสร็จเรียบร้อยแล้วก็ได้นำออกแจกทหารที่ไปรบเช่นเดียวกัน
พระชินราชหลวงพรหมโยธีเป็นอีกหนึ่งในแบบพระพุทธชินราชรูปหล่อโบราณที่มีชื่อเสียง ยิ่งในปัจจุบันที่พระชินราชอินโดจีนมีราคาเช่าหาแพงทะลุหมื่นและขยับขึ้นเรื่อยๆ นั้น พระชินราชหลวงพรหมโยธีก็ทวีบทบาทมากขึ้น ในฐานะพระทางเลือกที่ดีเยี่ยมเหตุเพราะประสบการณ์จากสงครามที่ไม่แพ้กัน พระชินราชหลวงพรหมฯ เป็นเนื้อทองผสม กระแสอมเขียวแบบเดียวกับพระชินราชอินโดจีนทุกประการ ก้นฐานพระมีสองแบบ คือแบบตอกโค๊ดอกเลาตื้นๆ กับแบบโค๊ตอกเลาหล่อติดในตัว ซึ่งแบบหลังจะหายากกว่า พระเครื่องราคาไม่แรงหลักพันกลางถึงปลาย คุณภาพล้วนๆ ธรรมชาติของพระหล่อโบราณแรงด้วยความศรัทธา "หลวงพ่อพระพุทธชินราช" วัดใหญ่พิดโลกบ้านเรา ด้วยความเคารพ ^^
พุทธคุณ คงกระพันชาตรี แคล้วคลาดปลอดภัย
สภาพ พออสวย ดูง่าย
ราคา ตดต่อสอบถาม