

หลวงพ่อทวดวัดช้างให้ พิมพ์ใหญ่ 2497 ปัตตานี
ลานพระวิธีดูพระหลวงพ่อทวดเนื้อว่าน ปี 2497
หลักการพิจารณาพระหลวงพ่อทวดเนื้อว่าน ปี 97มีจุดสังเกตุดังต่อไปนี้
- คราบน้ำว่านคล้ายยางมังคุดหมายความว่าการคายตัวของยางว่านที่อยู่ในเนื้อพระ ของเก๊ทำได้ไม่เหมือนจงใฃ้วิจารญาณ
- แร่สีแดง เป็นแร่ฃนิดหนึ่งที่นิยมใส่ในพระสำคัญมีลักษณะคล้ายๆดินกำแพง
- มวลสารที่คล้ายปีกแมลง มีลักษณะออกเหลือบสีดำคล้ายปีกแมงมักจะปรากฏในพระหลวงพ่อทวด
- เศษพระหักพระสมเด็จวัดบางขุนพรหม หรือภาษศัพท์เรียกว่าจุดขาวขุ่น
- ความห่างของเนื้อว่าน หมายความว่าเนื้อพระที่มีอายุจะมีการหดตัวทำให้เกิดความห่างโมเลกุลของเนื้อพระ
- ความปริรานของเนื้อพระ หมายความว่าเนื้อพระเมื่อมีการหดตัวเซ็ทตัวแล้วมักจะมีการปริ แยกในเนื้อพระที่มีอายุ
- คราบน้ำว่าน จะมีลักษณะคล้ายราขาวบางองค์เป็นเส้นคล้ายเส้นด้ายก้มี
- ดินกากยายักษ์ มีลักษณะคล้ายนิลบดแต่มีความแข็งน้อยกว่า
- แร่โรยด้านหลังพระ มีลักษณะเหลือบคล้ายข้าวตอกพระร่วง แต่มีสีดำที่แตกต่างออกไป
โซนเนื้อของพระหลวงพ่อทวด
- เนื้อละเอียดสีเทา
- เนื้อหยาบสีดำ
ธรรมชาติในการพิจารณาพระหลวงพระทวดเนื้อว่าน
- ความแห้ง
- ความหดตัว
- คราบน้ำว่าน
- มวลสารที่พึ่งสังเกตุเห็น
ขอเกริ่นนิยายให้ฟังสักเรื่องสองเรื่อง สมัยก่อนนิยมสะสมพระหลวงพ่อทวดเนื้อว่านกันมากๆ พอนักสะสมเก็บพระฯไปจนเกือบหมดแล้ว เริ่มหาพระเนื้อว่านยากมากขึ้น ทำให้ผู้มีอาชีพซื้อ-ขายพระ หาเงินได้ลำบากมากขึ้น ต้องกินต้องใช้ทุกวัน หากให้หาพระฯเนื้อว่านมาขาย คงจะต้องอดตายกันแน่ๆ จึงเกิดการชักนำให้มาเล่นพระที่ยังมีมากอยู่ในตอนนั้น ซึ่งก็คือพระฯหลังเตารีดหล่อและปั๊มซ้ำ จึงได้มาพูดว่า พระเนื้อว่านดูยาก เก็บรักษาก็ลำบาก ทีเมื่อก่อนนำพระเนื้อว่านมาขายไม่เห็นพูดแบบนี้ แล้วพระสมเด็จฯไม่เก็บรักษายากกว่าหรือ บางก็บางกว่า ตกก็แตกหักง่ายกว่า แล้วทำไมจึงแพงเอาแพงเอา ท่านทั้งหลายคิดถึงกรณีนี้หรือไม่
พอพระฯหลังเตารีดหล่อโบราณและพระปั๊มซ้ำสวยๆเริ่มหายากขึ้น ก็มีการชักนำให้เล่นพระมีตำหนิให้แพงขึ้นกรณี พระฯเตารีดใหญ่ปั๊มซ้ำ แตกที่หน้า ว่าแท้ดูง่ายเล่นราคาสูงเป็นแสนๆ แสดงว่าที่ขายไปเมื่อก่อนพระสวยๆกลายเป็นพระดูยากขึ้นมาแล้วซิ แต่มีใครตอบผมได้บ้าง ว่าประเทศไหนบ้างบนโลกใบกลมๆนี้ ที่คนสวยหรือคนหล่อเป็นคนที่มีเนื้องอกเนื้อเกินที่หน้าผาก ผ่านจมูกปากคางลงมาหรือจมูกแหว่งปากแหว่ง ไม่เห็นมีใครตอบผมได้สักคนว่ามีประเทศไหนบ้าง มีคนสวยหรือคนหล่อที่มีลักษณะอย่างนั้นแสดงว่า พระสวยๆไม่มีตำหนิต้องราคาสูงกว่าใช่หรือไม่ นี่ก็เป็นอีกกรณีหนึ่งหรือไม่ที่ชักนำไปในทางที่ผิด อ้อขอโทษไม่ได้ผิด แต่เซียนบอกมาไม่หมด แล้วพวกเราก็ไม่ได้ถามนะ ดังนั้นว่าเซียนหรือคนขายพระฯไม่ได้นะ
หากคิดย้อนกลับไปดูคำพูดสมัยก่อน กับคำพูดสมัยนี้ สะท้อนกลับเข้าหาตัวเองทั้งนั้น พูดโดยไม่ได้คิดว่าในอดีตตัวเองพูดไว้อย่างไร ตอนนี้พูดเพื่อให้ขายพระฯที่ตัวเองต้องการขายให้ได้เท่านั้น ลืมนึกไปว่าคำพูดนั้นจะไปหักล้างคำพูดของตนเองในอดีต ยิ่งพูดยิ่งทำลายความน่าเชื่อถือของตัวเอง
พวกเรานักนิยมสะสมพระเครื่องฯ หากเล่นเก็บสะสมพระฯตามที่เซียนชักนำ มีเงินร้อยล้าน หมื่นล้านก็ไม่พอให้เช่าพระฯตามที่เขาเล่าว่าหรือเขาบอกว่า ดังนั้นผมถึงบอกว่าเล่นพระฯให้เชื่อตัวเองเป็นหลัก อย่าไปเชื่อคนขายพระหรือคนอื่น เวลาเช่าพระฯเราเท่านั้นที่ออกเงิน คนอื่นไม่ได้มาช่วยออกเงินให้เราด้วยแล้วเรายังจะเชื่อเขาอีกหรือ
การเล่นพระนั้นมีเสน่ห์ตรงที่รู้หรือไม่รู้ และที่ว่ารู้นั้นก็ สามารถแยกออกมาอีกว่ารู้จริงมากน้อยแค่ไหน หากเป็นคนที่กล้าถาม ว่าพระที่เขาว่าแท้นั้นแท้แบบไหน เขาต้องบอกได้ว่าถ้าแท้นั้นมีเหตุผลอะไรที่ว่าแท้ เพราะคนดูพระฯเขาจะประมวลจากความรู้ของเขามาอย่างรอบด้านแล้ว ถึงลงความเห็นว่า พระฯองค์นี้แท้หรือเก๊ หากอธิบายไม่ได้จะรู้ทันทีว่ารู้ไม่จริง(ตัวปลอม) หากเก๊ก็ต้องบอกได้เหมือนกันมีเหตุผลอะไรรองรับ
ต้องขอออกตัวก่อนนะครับ ว่า ผมไม่ได้บอกว่าผมเก่งนะครับ ผมก็งูๆปลาๆ เพียงแค่บอกแนวคิดในการเก็บสะสมพระเครื่องฯของผมเท่านั้น ผมเองก็โดนมาแล้วทั้งนั้นทุกรูปแบบ จึงไม่อยากให้คนอื่นโดนด้วย อาจจะมีคนที่เก่งที่ไม่เคยโดนมาเลยก็ได้ แต่โดยส่วนมากจะโดนกันเกือบทุกคน อย่างกรณีที่เป็นเรื่องเป็นราวกันในกรณีพระแท้-พระเก๊ในหน้ากระดานประมูลพระฯนั้น ในกรณีนี้ทำให้ทราบทันทีและชัดเจนว่า ใครดูพระเป็นหรือไม่เป็น
สะสมพระฯไม่ใช่แค่ส่องดูอย่างเดียวครับ ต้องศึกษาว่าเขาสร้างจำนวนเท่าไหร่ สร้างด้วยเนื้อมวลสารอะไร วิธีสร้างเป็นแบบไหน อุปกรณ์ในการสร้างมีอะไรบ้าง เพราะทุกสิ่งที่พูดมานั้น สามารถบอกความเป็นมาเป็นไปของพระฯที่เราส่องดูที่เขาเรียกว่าธรรมชาติพระ นั่นก็คือเบสิค พื้นฐานในการสะสมพระเครื่อง หากจะดูพระฯให้ขาดจริงๆแล้วเราจะต้องศึกษาว่าพระแท้เขาสร้างกันอย่างไร มีขั้นตอนอะไรบ้าง และก็ต้องรู้ด้วยว่าเขาทำพระฯเก๊กันอย่างไร เพื่อจะได้เปรียบเทียบและสรุปได้ว่า “พระฯแท้และเก๊ แตกต่างกันอย่างไร” หากเราไม่รู้ทั้ง 2 แบบ แล้วเราจะบอกได้เต็มปากอย่างไรว่า เราดูพระฯเป็น
การดูพระฯ ไม่ใช่ว่าดูแค่พระองค์นั้นแท้หรือเก๊ ต้องถามตัวเองด้วยว่า ถ้าพระฯนี้แท้ ต้องดูให้ออกว่ามีเหตุผลกี่ข้อรองรับว่าเป็นพระฯแท้ ในทำนองเดียวกันถ้าหากว่าเก๊ ต้องหาให้ได้ว่าว่าเก๊แบบไหนมีเหตุผลอะไร เป็นการเล่นพระฯอาศัยเหตุผลเป็นหลัก นี่ก็คือการเล่นพระแบบเล่นไปคิดไปเป็นการประเทืองปัญญาทำให้เราทราบข้อมูลเพิ่มขึ้น หากเราไม่มีอะไรใหม่ๆเราก็เล่นพระตามก้นคนอื่นตลอดชาติ
ขอขอบคุณ : ข้อมูลดีๆ และภาพสวยๆ จาก คุณ แพะ สงขลา
สำหรับองค์นี้เป็นพิมพ์ใหญครับ นำมาเสนอให้ท่านได้ศึกษาครับ
พุทธคุณ แตล้วคลาดปลอดภัย
สภาพ สวย ดูง่าย
ราคา โชว์ครับ