พระพิษณุโลก | Prapsl.com

พระพิษณุโลก | Prapsl.com

ลำดับ 469 พระนางพญา พิมพ์สังฆาฏิ กรุวัดนางพญา พิษณุโลก

  
                           พระนางพญา พิมพ์สังฆาฏิ กรุวัดนางพญา พิษณุโลก
            (ตักศิลา)
         ข้อแนะนำในการการพิจารณาทางเนื้อหา คราบ และเมล็ดแร่ สั้นๆ ครับ เรื่องนี้เป็นอีกเรื่องที่สำคัญมากของพระนางพญา เมล็ดแร่ที่พบนี้จะแตกต่างจากเม็ดทรายก่อสร้าง ที่พวกปลอมพระใช้ กล่าวคือ ของแท้ มักจะมีครบทั้ง ๔ สี คือ ขาวใส ( มากที่สุด ) ขาวขุ่นทึบ สีน้ำตาลไหม้ กับสีดำ การโผล่ของแร่จะไม่มีแร่คม หากคมมักเป็นพระแกะ และขอให้พิจารณาดีๆ หากพบว่า มีเปลือกหอยมุกแว๊ปๆ จงวางทันทีครับ เพราะนั่นคือทรายก่อสร้างจากแม่น้ำหรือทรายทะเล 
นางพญามักหนากว่าพระสมเด็จราวครึ่งเท่าตัว รอยตอกตัดเป็นธรรมชาติ มิใช่บั้งลึก ๆ ต้องมีอาการยุบตัวเล็กน้อยตรมขอบ และด้านหลัง ไม่ใช่ราบเป็นหน้ากลอง คราบในซอกลึกไม่ว่าจะสึกอย่างไรมักปรากฏเสมอ ถ้าสะอาดเกลี้ยงหมดจดควรระวัง องค์เขียวจะมีคราบแสด องค์ดำจะมีคราบขาว องค์ดินเผาจะมีคราบสีน้ำตาลแก่ เป็นสูตรของรงคทฤษฏี ในผิวมักจะปรากฏอาการ " ว่านไหล " คล้ายๆเนื้อผ่าน บางทีก็ต้องส่องจึงเห็น 
แก้ไขเมื่อ : 16/9/2549 12:05:18


พระนางพญา กรุวัดนางพญา พิษณุโลก จัดว่าเป็นพระที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์ พระสมเด็จนางพญานั้นถือว่าเป็นพระที่ใครหลายๆคนใครที่จะครอบครอง พระนางพญา พิษณุโลก เป็นพระเนื้อดินที่มีชื่อเสียงที่สุดของจังหวัดพิษณุโลก ถึงขั้นจัดอยู่ในชุดเบญจภาคี พระเครื่องชั้นยอด ซึ่งมีอยู่ 5 องค์ด้วยกันคือ พระสมเด็จ พระรอดลำพูน พระนางพญาพิษณุโลก พระซุ้มกอกำแพงเพชร และพระผงสุพรรณ ซึ่งเป็นพระเครื่องสนนราคาหลักล้านจนถึงหลายล้านบาท ถ้าไม่ใช่เศรษฐีมีเงินทองเหลือใช้ก็ไม่มีโอกาสได้ไว้ครอบครอง พระนางพญา มีกำเนิดอยู่วัดนางพญา จ.พิษณุโลก ซึ่งแต่ก่อนนั้น เป็นวัดเดียวกันกับวัดราชบูรณะ ต่อมาทางการได้ตัดถนนผ่านกลางพื้นที่วัด จึงถูกแบ่งออกเป็น 2 วัด และสาเหตุที่ชื่อวัดนางพญา ก็เพราะค้นพบพระนางพญานี่เอง วัดราชบูรณะ สร้างโดยพระมหาธรรมราชา ส่วนวัดนางพญา สร้างโดยพระวิสุทธิกษัตรี พระมเหสีของพระองค์ เมื่อสร้างวัดก็ได้จัดสร้างพระนางพญาขึ้นบรรจุไว้ในกรุเจดีย์ ตามความเชื่อและนิยมของคนในสมัยนั้น เพื่อสืบต่อพระพุทธศาสนา และเพื่อเสริมสร้างบารมีให้แก่ผู้สร้าง ปีที่สร้างประมาณ พ.ศ. 2090-2100 พระนางพญา มีรูปลักษณ์ 3 เหลี่ยม ประทับนั่งปางมารวิชัย ไม่มีฐานประทับ ถูกค้นพบครั้งแรกประมาณปี พ.ศ.2444 ครั้งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จประพาสต้นถึงเมืองพิษณุโลก ทางจังหวัดได้เตรียมการต้อนรับเสด็จที่วัดนางพญา จึงมีการปรับพื้นที่และขุดหลุมเพื่อฝังเสาประรำพิธี จึงได้พบพระเป็นจำนวนมาก ทางเจ้าอาวาสและเจ้าเมือง จึงนำพระจำนวนหนึ่งขึ้นทูลเกล้าถวายแด่พระเจ้าอยู่หัว พระองค์จึงแจกจ่ายแก่ประชาชน และข้าราชบริพารที่ตามเสด็จ ที่เหลือก็นำกลับกรุงเทพฯ นอกจากค้นพบที่วัดนางพญาแล้ว ต่อมาก็พบอีกหลายวัด ล้วนแต่เป็นพระพิมพ์เดียวกัน เช่น “กรุตาปาน” พบบริเวณพื้นที่บ้านตาปาน ซึ่งน้ำมักท่วมขัง พระจึงเสียผิว มีเม็ดแร่ลอย จึงมักเรียกว่า “กรุน้ำ” พระนางพญาเป็นพระเนื้อดินผสมว่านเกสรดอกไม้ 108 ชนิด ตลอดจนแร่กรวดทรายต่าง ๆ เมื่อกดพิมพ์และตากแห้งแล้วจึงนำไปเผา พระส่วนใหญ่เนื้อจะหยาบ ที่เป็นเนื้อละเอียดมีน้อย มีด้วยกัน 3 พิมพ์คือ พิมพ์ใหญ่ พิมพ์กลาง และพิมพ์เล็ก แบ่งตามลักษณะพิมพ์ได้ดังนี้ กลุ่มพิมพ์ใหญ่ ประกอบด้วย พิมพ์เข่าโค้ง, พิมพ์เข่าตรง (ซึ่งมีด้วยกัน 2 พิมพ์คือ พิมพ์เข่าตรงธรรมดา และพิมพ์มือตกเข่า) และพิมพ์อกนูนใหญ่ กลุ่มพิมพ์กลาง มีเฉพาะพิมพ์สังฆาฏิ กลุ่มพิมพ์เล็ก มีพิมพ์เทวดา หรือพิมพ์อกแฟบ และพิมพ์อกนูนเล็ก พิมพ์พิเศษ คือพิมพ์เข่าบ่วง อยู่ในกลุ่มพิมพ์ใหญ่ แต่พบน้อยมาก ไม่รู้จักแพร่หลายเหมือนพิมพ์อื่น ๆ

สำหรับองค์นี้เป็นพิมพ์สังฆาฏิ ที่จัดอยูนพิมพ์กลาง ที่ดูง่าย มีทั้งคาบกรุ คาบความเก่า ฟอสซิลที่ปรากฎออกมา ยิ่งองค์จริงยิ่งดูง่ายมาก

พุทธคุณ แคล้วคลาดปลอดภัย ค้าขาย เมตตามหานิยม
                สภาพ      สวยเดิม ๆ
           
                ราคา        ติดต่อสอบถาม
Close Menu